21 ธันวาคม 2554

lie to me

























Lie to Me
ซีรีย์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งได้นักแสดงนำอย่าง คังจิวาน กับ ยุนอึนเฮ มารับบทนำในเรื่องนี้
เรื่องราวชุลมุน เกิดขึ้นเมื่อ กง อาจอง พนักงานระดับ 5 ของกระทรวงวัฒนธรรม เธอได้โกหกว่าเธอได้แต่งงานกับ ฮยุนกีจุน หนุ่มหล่อ ครอบครัวร่ำรวย เป็นถึง ผู้จัดการโรงแรมโนเบล ผ่านทางเว็บไซต์ โดยไม่ตั้งใจ และเมื่อคู่หมั้นตัวจริงของ กีจุน และเพื่อนสนิทของพี่ชายเขา ปรากฎตัวขึ้นมา เรื่องราวชุลมุนจึงเกิดขึ้น ติดตามชม Lie To me

http://www.kodhit.com/lie-me















12 ธันวาคม 2554

"องค์ชายฮยองจง หรือ พีดาม" ในละครเรื่อง "ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน"























โศกนาฎกรรมของ "องค์ชายฮยอนจง หรือ พีดาม"
Roytavan : Writer
Original : http://twssg.blogspot.com/

ในละครเรื่อง "ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน" ตัวละครเอกที่น่าสนใจอีกคนหนึ่งก็คือ "พีดาม" (เรื่องราวของพีดามที่จะนำมากล่าวในบทความนี้เป็นเรื่องที่นักเขียนบทละครโทรทัศน์สร้างขึ้นจากจินตนาการที่มี ซึ่งจะไม่เหมือนกับชีวประวัติ "ซังแดดึง พีดาม" ที่อยู่ในประวัติศาสตร์นะคะ) หลายท่านที่เคยติดตามชมละครเรื่องนี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตมาก่อน คงทราบดีว่าผู้ชมทั่วโลกหลงรักตัวละคร "พีดาม" ซึ่งเป็นตัวร้าย มากกว่า "คิมยูชิน" ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่องเสียอีก...หลายท่านคงสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด ? ทำไมถึงเป็นเข่นนั้น ?...ผู้เขียนก็คงบอกได้ว่า..อาจเป็นเพราะความสงสารที่ผู้ชมมีให้กับตัวละคร เพราะบุคลิกของพีดามนั้นเป็นคนที่อ้างว้างเดียวดายแต่มักกลบเกลื่อนด้วยการแสดงออกให้คนรอบข้างเห็นว่าตนเป็นคนไร้สาระสนุกสนานร่าเริง... ประกอบกับ "คิมนัมกิล" ก็มีความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกถึงตัวละคร "พีดาม" ออกมาได้ดีมาก จนทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของตัวละครอย่างชัดเจน

ตัวละคร "พีดาม" จะเริ่มมีบทบาทตั้งแต่ตอนที่ 21 เป็นต้นไป หลังจากที่ทุกท่านจากตอนที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นทารกมีพระนามว่า "องค์ชายฮยองจง (พีดาม)" ถูกพระสนมมิชิลผู้เป็นพระมารดาทอดทิ้งแบบไม่สนใจใยดีในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 จะเห็นในช่วงที่มุนโนนำไปเลี้ยงและช่วยนางกำนัลโซฮวาและพระธิดาฝาแฝดองค์น้องในพระเจ้าจินเพียงและพระมเหสีมายาลี้ภัยออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งพระธิดาฝาแฝดองค์น้องนี้เดิมมีพระนามว่า "อินมยอง (ด็อกมาน)" นั่นเอง ในช่วงที่เป็นเด็กและยังไม่รู้ความนั้น "องค์ชายฮยอนจง (พีดาม)" ก็ได้พบกับ "อินมยอง (ด็อกมาน)" มาก่อนแล้ว อีก 15 ปี ต่อมาก็ได้พบกันอีกครั้งในชื่อของ พีดามและด็อกมาน (ที่จริงจะต้องอ่านว่า ด็อกมันนะคะ ก็เอาเป็นว่าแล้วแต่สะดวกก็แล้วกันคะ)
พีดาม - จากองค์ชายกลายเป็นเด็กที่ร่อนเร่พเนจรติดตามอาจารย์ (กุกซอนมุนโน - อดีตหัวหน้าทหารฮวางรังคนที่ 8)ไปเรื่อย ๆ แต่เฉลัยวฉลาด เก่งในเรื่องยุทธวิธีการต่อสู้และความรู้เรื่องการแพทย์รวมทั้งศาสตร์การปกครองต่าง ๆ ที่อาจารย์ถ่ายทอดให้แต่ถูกห้ามไม่ให้นำออกมาใช้โดยไม่จำเป็น

ด็อกมาน - จากองค์หญิงกลายเป็นเด็กที่ต้องอาศัยอยู่กับแม่ (นางกำนัลโซฮวา)อาศัยค้าขายอยูในเขตการค้าซึ่งจีนเป็นผู้ปกครองดูแลหรือก็คือเส้นทางสายไหมตอนเหนือของอาณาจักรชิลลา เก่งในเรื่องค้าขายและได้รับอิทธิพลความรู้จากชาวต่างชาติโดยเฉพาะตุรกี มาค่อนข้างมาก ฉลาดเอาตัวรอดเก่งและเป็นคนมีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ
 
บทเริ่มต้นของโศกนาฎกรรม...
พีดาม เด็กน้อยผู้ซึ่งติดตามอาจารย์ไปทุกที่รักและเคารพอาจารย์ประดุจบิดาของตนเอง โดยหารู้ไม่ว่าที่แท้ตัวเองมีฐานันดรศักดิ์เป็นถึงองค์ชายแห่งอาณาจักรชิลลามาก่อน ในวัยเด็กนั้นพีดามทุ่มเทความรักให้กับอาจารย์จนสุดหัวใจและเขื่อฟังคำสั่งสอนทุกอย่างของอาจารย์ แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อมีกลุ่มคนเข้ามาทำร้ายและปล้นเอาหนังสือซึ่งอาจารย์ให้เขาเก็บดูแลรักษาไว้ไปจากเขา ด้วยความกลัวว่าอาจารย์จะดุด่าว่ากล่าว พีดามเลยเอาสมุนไพรพิษจากชาวบ้านผสมลงไปในอาหารให้กลุ่มโจรกินจนถึงแก่ความตายทั้งกลุ่ม ภายหลังมุนโนได้ตามหาพีดามและได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้รู้ว่ากลุ่มโจรกลุ่มนี้ก็คือบรรดาคนจนผู้ลี้ภัยต่างถิ่น การกระทำของพีดามทำให้คนเหล่านั้นตายทั้งหมดไม่เหลือแม้คนแก่ ผู้หญิงและเด็ก ในขณะที่พีดามกลับทำเป็นไม่สนใจนั่งอ่านหนังสือหัวเราะและรีบรายงานอาจารย์ว่าเขาสามารถรักษาสมบัติของอาจารย์ไว้ได้ ด้วยเหตุนี้มุนโนจึงได้ตระหนักถึงความโหดเหี้ยมที่อยู่ภายใต้จิตใจของพีดามและไม่เคยให้ความรักความอบอุ่นอีกทั้งยังไม่ให้ความสนใจพีดามอีกเลยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา...แต่ในทางกลับกันเด็กน้อยพีดาม ก็มีปมอยู่ในใจเพราะกลัวว่าอาจารย์จะไม่รักและกลัวจะถูกอาจารย์ตำหนิจึงแสร้งเป็นหัวเราะรื่นเริงเพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่ตนกระทำลงไป...นี่นับเป็นบทเริ่มต้นแห่งโศกนาฎกรรมของพีดาม...

ร่องรอยแห่งความรันทดอดสูในประวัติศาสตร์ : โศกนาฎกรรมบทที่สอง ของพีดาม :
หลังจากที่พีดามได้พบกับด็อกมาน มีเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับราชวงศ์แห่งอาณาจักรชิลลา ทำให้พีดามต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ พีดามช่วยให้ด็อกมานกลับคืนสู่สถานะขององค์หญิงแห่งอาณาจักรชิลลาได้สำเร็จจนกระทั่งองค์หญิงได้พบกับโซฮวาซึ่งเป็นแม่บุญธรรมอีกครั้ง ในขณะที่พีดามได้พูดคุยกับมุนโนผู้เป็นอาจารย์ถึงองค์หญิงฝาแฝด ทำให้มุนโนกลับไปรับใช้อาณาจักรชิลลาด้วยตำแหน่งทางการทหารของเขา นั่นก็คือ กุกซอน ซึ่งหมายถึงบิดาแห่งผู้นำฮวารังทั้งปวงอีกครั้ง และได้พบกับโซฮวานางกำนัลในพระเจ้าจินเพียงและได้พูดคุยถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่เขาได้ช่วยนางและองค์หญิงฝาแฝดลี้ภัยไปต่างแดน แต่นางกับพาองค์หญิงหนีไปทำให้เขาเสียโอกาสในการเลี้ยงดูองค์หญิงและไม่ได้ทำหน้าที่สำคัญอันยิ่งใหญ่ตามลิขิตของสวรรค์ ซึ่งเขาเชื่อว่าเมื่อทารกทั้งสองโตขึ้น (องค์ชายฮยองจง - พีดาม และองค์หญิงอินมยอง - ด็อกมาน) จะได้อภิเษกสมรสกันแล้วกลับมาครองอาณาจักรชิลลา

การพูดคุยของมุนโนและโซฮวาในเรื่องดังกล่าว พีดามได้ยินด้วยความบังเอิญและนี่เองเป็นที่มาที่ทำให้เขาค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขาว่าเขาเป็นใคร ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยคิดที่จะเสาะหาเรื่องราวของตัวเองมาก่อนเลยแม้แต่น้อย และท้ายที่สุดพีดามก็ได้รับรู้ว่าพระสนมมิชิลคือมารดาที่ให้กำเนิดเขา ส่วนบิดาก็คือพระเจ้าจินจีอดีตพระราชาแห่งอาณาจักรชิลลา และชื่อเดิมของเขาก็คือ "องค์ชายฮยองจง" ผู้ถูกพระมารดาทอดทิ้งอีกทั้งพระนางยังทรงขับไล่พระบิดาของเขาลงจากราชบัลลังก์อีกด้วย ขณะเดียวกันเมื่อเขาได้มาพบกับแม่ผู้ให้กำเนิดอีกครั้งยังต้องกลายเป็นศัตรูทางการเมืองต่อกันอีกด้วย เพราะเขาได้มอบความจงรักภักดีให้กับองค์หญิงด็อกมานอย่างหมดหัวใจ นับเป็นโศกนาฎกรรมครั้งที่สองของพีดามที่เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ หรือนี่คือชะตาลิขิตที่ทำให้เขาต้องได้พบกับความเศร้าอีกครั้ง...

โศกนาฎกรรมบทที่สาม : เพียงความเข้าใจและความรักจากอาจารย์ :
จากปมความผิดที่ฆ่าคนเพียงเพราะไม่ต้องการให้โจรมาแย่งเอาสมบัติล้ำค่าของอาจารย์ไป ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เมื่อครั้งวัยเยาว์ ทำให้พีดามไม่ได้รับความรักความสนใจจากอาจารย์อีกเลย ทำให้เกิดปมด้อยในใจของพีดามตลอดมาจนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่ม สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือการถูกอาจารย์ทอดทิ้ง เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้อาจารย์รักแต่ทุกอย่างที่ทำมักถูกอาจารย์ตำหนิเสมอ ขณะเดียวกันพีดามก็ได้รับรู้อย่างบังเอิญว่า กุกซอนมุนโนซึ่งเป็นอาจารย์ได้เปลี่ยนใจจะยกตำราซึ่งมุนโนเคยบอกกับเขาตั้งแต่เด็กว่า "ตำรานี้คือสมบัติล้ำค่าของเขาในอนาคต" จนทำให้เขาต้องฆ่าคนเมื่อครั้งยังเด็กให้กับคิมยูชินแทน ยิ่งทำให้พีดามรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและทำตัวดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟังอาจารย์อีกต่อไป ท้ายที่สุดเขาพบว่ามุนโนได้เตรียมเกบซ่อนตำราล้ำค่านั้นไปไว้ที่อื่น ทำให้พีดามยิ่งโกรธมากขึ้นและต่อสู้กับมุนโนผู้เป็นอาจารย์เพื่อแย่งชิงตำราชุดนั้นเพียงหวังเพื่อจะเอาชนะอาจารย์เท่านั้น แต่ระหว่างการต่อสู้มุนโนกลับถูกลอบทำร้ายด้วยเข็มอาบยาพิษของยอมจองลูกน้องของมุนโนเองจนถึงแก่ความตาย...ก่อนที่มุนโนจะสิ้นลมหายใจมุนโนจึงเข้าใจพีดามว่า...จุดประสงค์ที่พีดามมาต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำรานั้น...แท้จริงแล้วไม่ใช่ แต่เป็นเพราะพีดามเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจที่อาจารย์เห็นคนอื่นดีกว่าตนเองผู้ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่คอยดูแลรับใช้ตลอดมา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พีดามต้องสูญเสียบุคคลที่เปรียบเสมือนบิดาที่เลี้ยงดูเขามาอีกครั้ง...นับเป็นโศกนาฎกรรมน่าเศร้าครั้งที่สามของพีดาม

เพื่อความยิ่งใหญ่ของหญิงผู้เป็นที่รักและอาณาจักรชิลลา : โศกนาฎกรรมบทที่สี่ของพีดาม :
เมื่อองค์หญิงด็อกมานตั้งใจจะขึ้นครองราชย์เอง นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของชิลลาที่จะมีผู้หญิงขึ้นเป็นกษัตริย์คนแรกแห่งอาณาจักร แต่ก็มีอุปสรรคมากมายและที่สำคัญก็คือพระสนมมิชิลผู้เป็นมารดาของพีดาม ความคิดและอุดมการณ์ขององค์หญิงและมารดาของตนต่างกันนสุดขั้ว แต่พีดามได้มอบกายและใจให้กับด็อกมานจนหมดสิ้น สิ่งที่เขาสามารถทำให้หญิงผู้เป็นที่รักได้ก็คือ การโน้มน้าวความคิดของแม่เขาเอง ให้มีความยินยอมพร้อมใจที่จะช่วยเหลือด็อกมานให้ได้เป็นกษัตริย์ ความพยายามของเขาไม่สัมฤทธิ์ผลดังที่เขาตั้งใจ พีดามเลยใช้อุบายด้วยการข่มขู่พระสนมมิชิลด้วยการจะเปิดเผยราชโองการลับของพระเจ้าจินฮึงซึ่งเคยสั่งประหารพระสนมไว้ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ (แต่ถูกพระสนมและซอลวอนเก็บซ่อนราชโองการฉบับนั้นไว้)เปิดเผยต่อสาธารณะชน เมื่อพระสนมรู้ว่าราชโองการลับนั้นบัดนี้ตกอยู่ในมือของลูกชายพระนางเอง ทำให้พระนางไม่สามารถดิ้นรนหาหนทางในการต่อสู้กับองค์หญิงด็อกมานได้...พระนางจึงตัดสินใจจบบทบาทตัวเองด้วยการดื่มยาพิษตามแบบทหารฮวารัง...แม้นว่าครั้งนี้พีดามไม่ได้มีเจตนาให้เป็นเช่นนี้ แต่ท้ายที่สุดก็นำไปสู่ความตายของพระมารดาของเขาเอง...โศกนาฎกรรมครั้งที่สี่ที่ไม่ควรเกิดขึ้นของพีดาม...


โศกนาฎกรรมที่แสนเศร้าครั้งสุดท้ายของพีดาม :
หลังจากที่องค์หญิงด็อกมานขึ้นครองราชย์เรียบร้อยแล้ว พีดามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้รับความไว้วางใจอย่างมาจากองค์ราชินีจนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง "ซังแดดึง" ผู้นำสูงสุดแห่งสภาชนชั้นสูงของอาณาจักรชิลลา พีดามได้มอบความรักและหัวใจทั้งหมดที่มีให้แก่องค์ราชินี และด้วยความจงรักภักดีที่พีดามมีต่อพระนางนี้เอง ท้ายที่สุดเขาก็สามารถชนะใจของพระองค์ได้และได้รับความรักจากราชินีผู้เป็นที่รักตอบแทน ด้วยเหตุนี้พีดามจึงได้ร่างสัญญาให้แก่องค์ราชินีว่าจะสละสิทธิ์ในการขึ้นครองราชย์หลังจากที่องค์ราชินีสิ้นพระชนม์
แต่หนทางแห่งความรักนั้นมิได้โรยด้วยดอกกุหลาบ... ภายหลังองค์ราชินีได้ประกาศการเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพีดามในอนาคต ข่าวการอภิเษกสมรสทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในกลุ่มชนชั้นสูงของชิลลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มขององค์ชายชุนชู ซึ่งกลัวว่ากลุ่มของอดีตพระสนมมิชิลซึ่งขณะนี้มีพีดามเป็นผู้นำจะเรืองอำนาจขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกันยอมจองซึ่งเป็นผู้ช่วยพีดามก็ได้เจอร่างสัญญาลับระหว่างพีดามกับองค์ราชินีเรื่องการสละราชบัลลังก์ของพีดาม...ทำให้กลุ่มชนชั้นสูงซึ่งสนับสนุนพีดามเกิดความไม่พอใจพีดามเช่นกันเพราะกลัวว่าหากพีดามไม่ขึ้นครองราชย์ องค์ชายชุนชูซึ่งเป็นคู่กรณีพิพาทกับกลุ่มตนขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แทน และคงจะสั่งประหารพวกตนเนื่องจากเรื่องราวในครั้งหลังได้ เพราะพระสนมมิชิลแลพพรรคพวกได้สังหารเสด็จปู่,พระบิดาและพระมารดา(องค์หญิงชอนมยองพี่สาวฝาแฝดขององค์ราชินี)ขององค์ชายชุนชู...ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ชนชั้นสูงทั้งสองกลุ่ม สร้างเรื่องก่อเหตุแห่งความไม่เข้าใจและหวาดระแวงให้กับพีดามจนทำให้พีดามเข้าใจผิดในตัวขององตค์ราชินี ว่าหญิงผู้เป็นที่รักของเขาได้สั่งสังหารเขา แม้ว่าพีดามจะได้รับจดหมายจากองค์ราชินีว่าพระองค์จะสละราชบัลลังก์และมาอยู่กับเขาในช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่พีดามก็ไม่ยอมเชื่อ...

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พีดามเสียใจจนแทบเสียสติเขานึกทบทวนว่าตั้งแต่ยังเป็นเด็กทารก เขาถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง อาจารย์ไม่สนใจใยดีในตัวเขา และท้ายที่สุดหญิงคนรักที่เขามอบกายและใจให้ทั้งหมดกับสั่งประหารเขา ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้เขาตัดสินใจก่อการกบฎขึ้น ท่ามกลางความเสียใจขององค์ราชินีเช่นกัน...ภายหลังทหารคนสนิทของทั้งคู่(ราชินีและพีดาม)จะมารายงานว่าความเข้าใจผิดทั้งหมดเกิดขึ้นจากยอมจอง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะองค์ราชินีได้ออกคำสั่งให้คิมยูชินออกประกาศไปทั่งอาณาจักรว่า พีดามเป็นบุคคลอันตรายของแผ่นดินหากใครพบเจอพีดามให้สังหารได้ทันที ขณะเดียวกันพีดามก็เป็นผู้นำในการก่อกบฎจลาจลขั้นในเมืองหลวงเช่นกัน และนี่คือโศกนาฎกรรมครั้งสุดท้ายที่นำ "พีดาม หรือ องค์ชายฮยอนจง" ผู้อาภัพไปสู่ความตาย....




ทิ้งกลอนไว้ให้จากใจต๊อกมานถึงพีดามนะ
เจ้าผิดพลั้งครั้งนี้มีโทษหนัก             จำต้องหักดาบเช่นเจ้าลงคราวนี้
เจ้าอาจจะดับดิ้นสิ้นชีวี                    หากยังผลีผลามกายหมายโรมรัน
ทุกคมมีดที่กรีดบนร่างเจ้า                มันบาดเข้าใจข้าเจียนอาสัญ
ทั้งคมหอกคมดาบแลเกาทัณฑ์          ทุกครั้งมันทิ่มลงตรงกลางใจ

เมื่อเจ้าทรุดร่างลงตรงหน้าข้า            รู้ไหมว่าข้าเจ็บสักเพียงไหน
ข้าได้ทำที่สุดแล้วเพื่อใครๆ               จากนี้ไปจะทอดร่างลงข้างกัน
ต๊อกมาน  ต๊อกมาน  ชื่อข้านี้             จะมีแต่เพียงเจ้าเรียกเท่านั้น
ใยชีวิตจึงเหน็บหนาวราวเหมันต์          จะหันหลังหนีไปได้ไหมเอย

...รักของข้าให้ไปใยไม่รู้                  ใจเจ้าอยู่กับข้าอย่าสงสัย
...รักของข้าคืนมาไม่เป็นไร               แต่ใจเจ้าคืนไม่ได้ตราบวายชนม์...
......................................

11 ธันวาคม 2554

ซามูไรพ่อลูกอ่อน ( 子連れ狼, Kozure Ōkami;) 2516






ซามูไรพ่อลูกอ่อน (ญี่ปุ่น: 子連れ狼, Kozure Ōkami; อังกฤษ: Lone Wolf and Cub หรือ Baby Cub) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่แต่งโดยคะซุโอะ โคะอิเคะ และโกะเซะคิ โคะจิมะ เป็นเรื่องราวในยุคเอะโดะเกี่ยวกับ "โองะมิ อิตโตะ" ซามูไรเพชฌฆาตประจำตัวโชกุน ที่กลายเป็นซามูไรพเนจรไปพร้อมกับ "ไดโกโร" ลูกชายวัยแบเบาะ
ซามูไรพ่อลูกอ่อนตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารมังงะรายสัปดาห์สำหรับผู้ใหญ่ ระหว่าง พ.ศ. 2513 ถึง พ.ศ. 2519 ตีพิมพ์รวมเล่มจำนวน 28 เล่ม และได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยโตโฮ จำนวน 6 ภาค ฉายตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ถึง พ.ศ. 2517 นำแสดงโดย โทมิซาบุโร วากายามา รับบทเป็นอิตโต กำกับโดยเค็นจิ มิซูมิ (ภาค 1-3 และ 5), บูอิจิ ซะอิโตะ (ภาค 4) และโยชิยูกิ คุโรดะ (ภาค 6) นอกจากนี้ ยังนำมาสร้างภาพยนตร์ฉบับล้อเลียน ในปี พ.ศ. 2522 นำแสดงโดยฮิเดกิ ทาคาฮาชิ (โดยโทมิซาบุโร วากายามา ที่เดิมเป็นพระเอก กลับมารับบทเป็นตัวร้าย เร็ทสึโด) [1] และในปี พ.ศ. 2535 นำแสดงโดยทามุระ มาซาคาสุ [2]
ซามูไรพ่อลูกอ่อนได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกหลายครั้ง ครั้งแรกจำนวน 3 ฤดูกาลระหว่าง พ.ศ. 2516 ถึง พ.ศ. 2518 รวมทั้งสิ้น 78 ตอน ตอนละ 45 นาที นำแสดงโดยคินโนซูเกะ โยโรซูยา ครั้งที่สองช่วงกลางทศวรรษ 1980 นำแสดงโดยคินโนซูเกะ โยโรซูยา และครั้งที่สามระหว่าง พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2547 นำแสดงโดยคินยะ คิตะโอะจิ
ภาพยนตร์ซีรีส์ฉบับที่นำแสดงโดยคินโนซูเกะ โยโรซูยา เคยมาฉายในประเทศไทยทางช่อง 7 ไอบีซี และไอทีวี

"โองะมิ อิตโตะ" ซามูไรที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเพชฌฆาต มีศักดิ์และอำนาจทำการแทนตัวโชกุนตระกูลโทะกุงะวะ โองะมิ อิตโตะได้รับมอบหมายให้กวาดล้างสามตระกูลที่เป็นปริปักษ์ต่อโชกุน ทำให้ถูกอาฆาตพยาบาท โดยเฉพาะจาก "ยาเงียว เร็ทสึโด" แห่งตระกูลยาเงียว

โองะมิ อิตโตะถูกหักหลัง ถูกปลดจากตำแหน่งและตั้งข้อหากบฏ ภรรยาและลูกน้องถูกฆ่าตาย มีเพียงลูกชายวัยขวบเศษ "โองะมิ ไดโกโร" ที่รอดชีวิต โองะมิ อิตโตะกลายเป็นซามูไรรับจ้าง ออกร่อนเร่เดินทางไปพร้อมกับลูกน้อยที่นั่งในรถเข็น โดยถูกตามล่าจากศัตรู ตลอดการเดินทาง

โอกามิ อิตโต้ ไม่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ แต่เป็นตัวเอกของการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง 子連れ狼 หรือที่รู้จักกันในนาม ซามูไรพ่อลูกอ่อน ในบ้านเรานั่นเอง ถ้าเป็นคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และบ้านไม่อยู่ในชนบทจนเกินไปนัก ต้องเคยชมละครโทรทัศน์เรื่องนี้ทางช่องเจ็ดสีอย่างแน่นอน สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ถึง 7 ภาค และทำเป็นละครทีวี 2 รอบ (ละครชุดแรกนำกลับมารีรันอีก 4 ครั้งอีกต่างหาก)


子連れ狼 ที่แปลเป็นไทยได้ว่า สุนัขป่ากับลูก เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในยุคของโชกุน โทกุกาวะ อิเอยาสุ หรือที่เรียกกันว่ายุคเอโดะ ยุคที่มีสีสันมากที่สุดยุคหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

โอกามิ อิตโต้ ก่อนที่จะมาเป็นซามูไรพ่อลูกอ่อน เคยเป็นใหญ่เป็นโตมาก่อนครับ เขาชนะการประลองฝีมือรอบสุดท้ายเอาชนะลูกชายของเรทสึโด้ เจ้าสำนักดาบยางิว (ในเวอร์ชั่นช่องเจ็ดสี ใช้คำว่าขบวนการยางิว) ทำให้ได้รับตำแหน่งโคกิ ไคชาคุนิน (ตำแหน่งนี้ไม่มีอยู่จริง) ตามเนื้อเรื่องเป็นตำแหน่งที่สำคัญและมีอำนาจมาก คือเป็นคนที่มีสิทธิในการทำไคชาคุ ให้กับไดเมียว หรือเจ้าเมืองให้กับโชกุน "ไคชาคุ" คือการลงดาบ เป็นการกระทำที่มีเกียรติอย่างหนึ่งของซามูไร

เล่าซะยาว กลับมาที่ โอกามิ อิตโต้ ตำแหน่งโคกิ ไคชาคุนิน ของเขาไม่ธรรมดาครับ ถ้าจะให้คำจำกัดความที่ถูกต้องน่าจะเป็นตำแหน่งที่เรียกกันว่า "เพชฌฆาต" ของโชกุน เขามีหน้าที่นำคำสั่งประหารไปให้กับบรรดาไดเมียว ซึ่งไดเมียวจะได้รับสิทธิทำเซ็ปปุคุ เพื่อพิสูจน์ตนเอง และมีโอกามิ อิตโต้ คอยทำไคชาคุให้ เรียกว่าฝีมือดี มีตำแหน่งสูงส่ง สามารถทำไคชาคุให้กับทุกคนได้อย่างไม่ผิดหวัง รับประกันฉับเดียวขาด

ที่ต้องให้ประลองฝีมือชิงตำแหน่งโคกิ ไคชาคุนิน ก็เพราะโชกุนต้องการที่จะมั่นใจได้ว่า คนที่สั่งให้ตายนั้นตายแน่นอน คิดดูสิครับจะมีไดเมียวซึ่งก็บิ๊กพอตัวคนไหนอยากตายมั่งหละ ดังนั้นถ้าไดเมียวหนี โอกามิ อิตโต้ก็จะตามไปบริการ ถ้าไดเมียวส่งคนมาเก็บ โอกามิ อิตโต้ก็ต้องฝ่าฟันเข้าไปเจี๋ยน และที่สำคัญคือ โอกามิ อิตโต้ต้องรอดกลับมารายงานให้ได้หลังจากเจี๋ยนแล้ว เห็นมั้ยหละครับว่า ตำแหน่งนี้ต้องเป็นสุดยอดฝีมือ


ตามธรรมดาของพระเอกครับ คือต้องมีเมียขาว หมวย สวย อึ๋ม เมียของโอกามิ อิตโต้ ชื่อ อาซามิ (มีบทน้อยมาก แทบไม่มีใครรู้ว่าเมียอีตาอิตโต้ชื่ออะไร) ไม่เหมือนจอมยุทธของจีนดาบของโอกามิ อิตโต้ ไม่ถูกระบุชื่อ แต่ระบุว่าเป็นดาบโดตานูคิ ดาบโดตานูคิมีลักษณะคล้ายดาบคาตานะ (ดาบคาตานะก็คือดาบซามูไรในภาพยนตร์ทั่วไปนั่นแหละ) แต่แตกต่างตรงที่มีใบดาบที่หนามากเป็นพิเศษ เป็นดาบยาวที่มีไว้ใช้ในการทำสงคราม ซึ่งปกติซามูไรทั่วไปไม่พกพาในยามปกติ เรียกว่าอาวุธหนักว่างั้นเถอะ
ความพิเศษของโอกามิ อิตโต้ คือ เขามีเพลงดาบที่ร้ายกาจชื่อว่า เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย ซึ่งสอดรับกับการใช้ด้วยดาบโดตานูคิ ใช้สู้กับศัตรูที่มีจำนวนมาก ๆ ได้ ซึ่งมีเพียงเพลงดาบของสำนักยางิวเท่านั้นที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเพลงดาบของเขา แต่ทีเด็ดไม่ได้มีแค่นั้น เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย ยังมีทีเด็ดตรงที่ ถ้าสู้ในน้ำจะเก่งกว่าเดิม เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย สู้บนบกเลยเก่งสู้ในน้ำไม่ได้ ดังนั้นในละครทีวีทางช่องเจ็ด เราเลยเห็นฉากโอกามิ อิตโต้วิ่งหน้าตั้งหนีลงน้ำแทบทุกตอน (ฮา) พอลงน้ำได้ปุ๊บเก่งขึ้นมาทันที จะมากันกี่คนก็รับได้ เค้าจะทำหน้าเข้ม ๆ แล้วคำรามว่า "เพลงงงงงดาบบบบบแม่น้ามมมมโร้ยยยยสายยยยย" จากนั้นก็เอาดาบจุ่มน้ำ ที่แท้แล้วเคล็ดวิชาของเพลงดาบแม่น้ำร้อยสายอยู่ที่การเอาดาบซ่อนในน้ำแล้วไม่มีใครหาเจอ เอ้ย ไม่มีใครเห็นว่าเค้าฟันมาจากตำแหน่งไหนนั่นเอง มิน่าถึงได้เก่ง

โอกามิ อิตโต้ ทำงานตามหน้าที่ล้มล้างตระกูลของไดเมียวไปถึงสามตระกูล ทำให้บรรดาทายาทของตระกูลเหล่านั้นแค้นเค้าอย่างมาก (น่าแปลกที่ไม่แค้นโชกุน) ประกอบกับ เรทสึโด้ เจ้าสำนักยางิวต้องการแย่งชิงตำแหน่งของเขา เรทสึโด้เลยวางแผนให้ทายาทของตระกูลไดเมียวทั้งสาม บุกเข้ามาสังหาร อิตโต้ แต่บังเอิญอิตโต้ไม่อยู่ (วางแผนลอบสังหารได้ห่วยมาก เลือกลงมือตอนไม่อยู่ ไม่รู้จักสืบให้ดี ๆ) เมื่อคนเก่งไม่อยู่ คนที่เหลือจึงตายหมดยกบ้าน ยกเว้นลูกชายของโอกามิ อิตโต้ ที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน โอกามิ ไดโกโร่ (บังเอิญหลบเก่ง)
หลังจากนั้นโอกามิ อิตโต้ก็ถูกใส่ร้าย ถูกถอดยศ และกำลังจะถูกจับไปประหาร ตอนนั้นไดโกโร่ อายุได้ 1 ขวบ โอกามิ อิตโต้เลยให้ลูกชายเลือก ระหว่างของเล่น กับดาบ ถ้าเลือกของเล่น เขาจะสังหารบุตรชาย เพื่อให้ไปเล่นอยู่กับแม่ ถ้าเลือกดาบก็จะพาออกเดินทางไปด้วยกัน ทีนี้เด็กมันไม่โง่นี่ครับ เรื่องอะไรจะไปเล่นอยู่กับแม่ ถ้าเลือกแบบนั้นก็หมดบท อดได้เล่นต่อ เลยเลือกดาบ และเรื่องราวการผจญภัยของซามูไร พ่อลูกอ่อนก็เริ่มขึ้น