คำคมจาก สตีฟ จ็อบส์ ชายผู้เปลี่ยนโฉมวงการไอที
แม้ "สตีฟ จ็อบส์" ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธาน และผู้บริหารสูงสุดของบริษัทแอปเปิ้ล จะได้ลาโลกนี้ไปอย่างสงบแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ตุลาคม) แต่แน่นอนว่าเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่เขาได้คิดค้นพัฒนาขึ้นในฐานะผลิตภัณฑ์จากบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิ้ล จะยังคงอยู่กับเราและถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สิ้นสุดไม่เพียงแต่เจ้าอุปกรณ์เครื่องมือเหล่านี้จะเป็นมรดกทางความคิดที่เป็น รูปธรรมเท่านั้น คำพูดคำกล่าวหลาย ๆ ครั้งของจ็อบส์ก็นับเป็นวาทะที่คมคาย ให้แง่คิด แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนช่างฝัน และความทะเยอทะยานที่จะสานฝันนั้นให้เป็นจริง สร้างทั้งแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นวาทะที่เขาตั้งใจร่างขึ้นมาพูดโดยเฉพาะ หรือบางวาทะที่เขาตั้งใจกล่าวมันออกมาแบบธรรมดา ๆ ก็ตาม
วันนี้ เราจึงนำคำคมของ สตีฟ จ็อบส์ ที่เว็บไซต์ไวร์ดดอทคอม และ บิสซิเนสอินไซเดอร์ดอทคอม ได้คัดและรวบรวมเอาไว้ มาให้คุณได้อ่าน เพื่อสัมผัสกับตัวตนและความคิดของชายผู้หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อโลกไอทีอย่าง ยิ่งยวดเช่น สตีฟ จ็อบส์ คนนี้..
ด้านการออกแบบและนวัตกรรมใหม่ ๆ
"ความรู้สึกในใจอย่างหนึ่งมันบอกผมเสมอว่า อยากจะเป็นเจ้าของและควบคุมเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานในทุก ๆ อย่างที่เราทำได้"
- จาก Business Week Online 12 ตุลาคม 2004
"การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณลงทุนไปเท่าไรกับการ ค้นคว้าวิจัยและพัฒนา ตอนที่แอปเปิ้ลคลอดแมคออกมา ไอบีเอ็มลงทุนไปกับการค้นคว้าวิจัยและพัฒนามากกว่าเดิมตั้งร้อยเท่า แต่มันไม่ใช่เรื่องของตัวเงินหรอก มันเป็นเรื่องของบุคลากรที่คุณมีต่างหาก อยู่ที่ว่าคุณถูกปูทางไว้อย่างไร และคุณทำตามที่วางแผนได้แค่ไหน"
- จากนิตยสาร Fortune วันที่ 9 พฤศจิกายน 1998
"มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์สักอย่างมาให้เหมาะกับกลุ่ม เป้าหมาย หลาย ๆ ครั้งที่ผู้คนไม่รู้ตัวเองว่าต้องการอะไร จนกระทั่งคุณได้สร้างมันขึ้นมาและสาธิตวิธีการใช้ให้เขาเห็นนั่นแหละ"
- จาก Business Week วันที่ 25 พฤษภาคม 1998
"เราบอกว่า 'ไม่ใช่' กับสิ่งต่าง ๆ กว่า 1,000 อย่าง เพื่อที่จะมั่นใจว่าเราไม่ได้เสียเวลาหรือกำลังพยายามอยู่กับสิ่งที่มันเข้า กันไม่ได้"
- จาก Business Week Online วันที่ 12 ตุลาคม 2004
"นี่คือคาถาอย่างหนึ่งของผมเลยนะ 'เรียบง่ายและตรงจุด' อะไรที่เรียบง่ายสร้างได้ยากสิ่งที่ซับซ้อนเป็นไหน ๆ คุณต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะสกัดความคิดออกมาให้ตกผลึกและสะอาดที่สุด แต่มันก็คุ้มค่าเมื่อคุณทำมันได้สำเร็จ เมื่อถึงจุด ๆ นั้น แม้แต่ภูเขาคุณก็สามารถเคลื่อนย้ายมันได้"
- จาก Business Week วันที่ 25 พฤษภาคม 1998
เกี่ยวกับบริษัทแอปเปิ้ล
"หนทางที่จะรักษาแอปเปิ้ลเอาไว้ได้ไม่ใช่การรัดเข็มขัด แต่เป็นการหาทางปรับโฉมใหม่ให้หลุดออกจากสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ต่าง หาก"
- จากหนังสือ Apple Confidential 2.0
"รู้ไหมว่าผมน่ะมีแผนที่จะช่วยให้แอปเปิ้ลพ้นจากภาวะซบเซานี้ไปได้ ผมก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่ายืนยันว่านี่คือผลผลิตที่สมบูรณ์แบบและ เป็นยุทธวิธีที่ดีที่สุดของแอปเปิ้ล แต่ก็คงไม่มีใครสนใจฟังผมหรอก"
- จากนิตยสาร Fortune 18 กันยายน 1995
"ถ้าผมยังทำงานอยู่ที่แอปเปิ้ล ผมจะดูแล Macintosh ให้สมกับที่มันควรคู่ แล้วก็จะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใหม่ ๆ ต่อไป สงครามของคอมพิวเตอร์พีซีมันสิ้นสุดแล้ว จบลงอย่างเด็ดขาด และ Microsoft ก็ชนะไปนานแล้วด้วย"
- จากนิตยสาร Fortune 19 กุมภาพันธ์ 1996
"มันไม่ได้เกี่ยวกับว่า Microsoft นั้นสุดจะวิเศษหรือว่าเก่งเรื่องการลอกเลียนหรอก แต่มันเป็นเพราะ Mac หยุดอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไปตั้ง 10 ปีต่างหาก นี่คือปัญหาของแอปเปิ้ลล่ะ"
- จากหนังสือ Apple Confidential 2.0
เกี่ยวกับการเรียนรู้และการทำงาน
"มันดีกว่านะที่จะได้เป็นโจรสลัด แทนที่จะต้องอยู่พวกเดียวกับทหารเรือน่ะ"
- จากหนังสือ Odyssey: Pepsi to Apple
"การได้ชื่อว่าเป็นผู้จากไปที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาหลุมศพทั้งหมดไม่ใช่ เรื่องสำคัญสำหรับผม การได้รู้สึกกับตัวเองก่อนเข้านอนว่า วันนี้เราได้ทำสิ่งที่แสนมหัศจรรย์ลงไปต่างหากล่ะที่เป็นสิ่งสำคัญ"
- จาก The Wall Street Journal 25 พฤษภาคม 1993
"ผมรู้สึกอย่างกับว่าโดนใครต่อยฮุคที่ท้องแล้วลมก็ไหลออกจากตัวจนหมดยัง งั้นแหละ ผมเพิ่งจะ 30 แล้วก็ยังอยากที่จะมีโอกาสได้เริ่มต้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อีก ผมรู้ดีว่ายังมีคอมพ์เจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่ในตัวผมอีกเครื่องหนึ่ง แต่แอปเปิ้ลก็ไม่ให้โอกาสผมที่จะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมา"
- จากนิตยสาร Playboy เดือนกันยายน 1987
"สตีฟ จ็อบส์ คนนี้เป็นคน ๆ เดียวที่ผมได้รู้จัก คนที่สูญเงินกว่าไปถึงหนึ่งในสี่ของพันล้านดอลลาร์ในเวลาแค่ปีเดียว...มัน เป็นเรื่องของการเรียนรู้จริง ๆ อย่าคิดว่าการก้าวพลาดนั้นคือความผิดพลาด ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่เคยผ่านความล้มเหลวหรือความผิดพลาด มีแต่คนที่ไปสู่จุดหมายได้ด้วยการเคยพลาดและเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อ รับมือกับมัน เพื่อให้ครั้งต่อไปเข้าที่เข้าทางกว่าเดิม เขามองความผิดพลาดเป็นเหมือนกับคำเตือนให้ระวังมากกว่าที่จะมองว่ามันเป็น ความบกพร่อง ถ้าไม่เคยเจอกับความล้มเหลวก็เท่ากับว่ายังใช้ชีวิตไม่เต็มที่นั่นแหละ"
- จากหนังสือ Apple Confidential 2.0
"เรื่องกลับกลายเป็นว่าการที่ผมออกจากแอปเปิ้ลเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิด ขึ้น ภาระอันหนักอึ้งที่ได้รับหลังจากประสบความสำเร็จ ถูกแทนที่ด้วยความโล่งสบายเบาหวิวกับการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง มันปลดปล่อยผมให้เป็นอิสระและกลับไปสู่ช่วงที่เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มใหม่ ๆ อีกครั้ง"
- สุนทรพจน์จากพิธีสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 20 มิถุนายน 2005
"คุณจะขายน้ำใส่น้ำตาลแบบนี้ไปตลอดชีวิตที่เหลือ หรือจะเลือกโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ล่ะ"
- คำพูดของ สตีฟ จ็อบส์ ต่อ จอห์น สกัลลีย์ ประธานบริษัท Pepsi เพื่อโน้มน้าวให้เขามานั่งตำแหน่งซีอีโอของแอปเปิ้ล จากหนังสือ Odyssey: Pepsi to Apple
"มันจะได้รับการบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนของ อุตสาหกรรมดนตรี และเป็นสัญลักษณ์ของวงการเพลงยุคใหม่ ผมไม่สามารถประเมินค่ามันไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว"
- ความคิดเห็นเกี่ยวกับ iTunes Music Store จากนิตยสาร Fortune 12 พฤษภาคม 2003
"iMac จะเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับปีต่อไปในราคา 1,299 เหรียญ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์เลหลังจากปีที่ผ่านมาในราคาแค่ 999 เหรียญ"
- พูดแนะนำถึง iMac ที่เมืองคูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1998
"มันจะทำให้คุณตะลึงจนอ้าปากค้างแน่"
- พูดถึงคอมพิวเตอร์ตัวแรกจาก NeXT จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ วันที่ 8 พฤศจิกายน 1989
"ผมเชื่อว่ามันจะเป็นความก้าวหน้าก้าวใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ วอลท์ ดิสนีย์ ได้สร้างสโนว์ไวท์ ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว"
- ความคิดเห็นต่อภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่น Toy Story จากนิตยสาร Fortune วันที่ 18 กันยายน 1995
"มันก็ยากนะที่จะคิดว่าบริษัทมูลค่าตั้งสองพันล้าน กับพนักงานอีกตั้ง 4,300 คนไม่สามารถต่อกรกับพนักงานหกคนที่นุ่งกางเกงยีนส์ธรรมดา ๆ มาทำงานได้"
- พูดถึงแอปเปิ้ล หลังจากที่เขาได้ลาออกจากบริษัทและไปก่อตั้ง NeXT ขึ้น จากนิตยสาร Newsweek วันที่ 30 กันยายน 1985
"ตามความคิดของผม มีบริษัทคอมพิวเตอร์ 2 แห่งที่มีซอฟท์แวร์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ก็คือ Apple และ NeXT และผมก็ชักจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับ Apple ซะแล้วสิ"
- จากนิตยสาร Fortune วันที่ 26 สิงหาคม 1991
"ทำไมผมจะต้องรู้สึกว่าอยากจะบริหารดิสนีย์ด้วยล่ะ มันคงเมคเซ้นส์กว่านะถ้าผมจะขายพิกซาร์ให้ไปแล้วผมก็ปลดเกษียณตัวเองน่ะ"
- จากนิตยสาร Fortune วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2004
"เขาสองคนก็เหมือนกับเด็กน้อยที่หลงอยู่ในป่านั่นแหละ ผมคิดว่าผมช่วยเปลี่ยนพวกเขาทั้ง อัลวี่ และ เอ็ด ให้กลายเป็นนักธุรกิจได้น่ะ"
- พูดถึง อัลวี่ และ เอ็ด ผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar หลังจากที่จ็อบส์เล็งเห็นว่าทั้งสองสามารถไปได้ไกลกว่าการเป็นแค่นักทำ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก จากนิตยสาร Time วันที่ 1 กันยายน 1986
"ตามความคิดของผม Pixar มีโอกาสที่จะเป็น Disney เบอร์ต่อไปได้นะ ..ไม่ใช่ว่าแทนที่ แต่ผมหมายถึงเป็น Disney ลำดับต่อไปน่ะ"
- จากนิตยสาร Business Week 23 พฤศจิกายน 1998
เกี่ยวกับชีวิตการทำงาน
"การทำงานจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ และหนทางเดียวที่จะมีความสุขไปกับสิ่งที่ทำก็คือการเชื่อมั่นว่าคุณได้ทำใน สิ่งที่ยอดเยี่ยม และหนทางเดียวที่จะทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้ก็คือการที่คุณรักงานที่คุณทำ หากคุณยังไม่เจอหนทางของตัวเอง จงพยายามค้นหาต่อไป อย่าได้หยุดยั้ง และเมื่อไรก็ตามที่คุณพบมัน คุณจะรู้ได้จากหัวใจของคุณเอง มันก็เหมือนกับเรื่องของมิตรภาพหรือความสัมพันธ์ดี ๆ ที่ยิ่งผ่านไปนานวันก็จะยิ่งรู้สึกว่ามันใช่ เพราะฉะนั้นจงค้นหาต่อไปอย่าได้หยุด จนกว่าจะเจอ"
- งานสำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เดือนมิถุนายน 2005
แม้ถึงที่หมายแล้วก็อย่าได้หยุดเฉย
"ผมคิดว่าเมื่อคุณได้ลงมือทำอะไรแล้วผลลัพธ์มันออกมาน่าพอใจ จงลงมือทำในสิ่งอื่นที่น่ามหัศจรรย์ต่อไป อย่าได้หยุดนั่งอยู่กับความสำเร็จนั้นนานนัก ลองมองหาว่าควรจะทำอะไรต่อไปก็เท่านั้นเอง"
- จาก NBC Nightly News เดือนพฤษภาคม 2006
ความเชื่อมั่นในอนาคต
"คุณไม่สามารถที่จะลากต่อจุดได้ด้วยการเอาแต่มองไปข้างหน้า แต่คุณจะเชื่อมแต่ละจุดเข้าด้วยกันได้โดยการมองย้อนกลับไปต่างหาก ฉะนั้นคุณจึงต้องมีความเชื่อมั่นในจุดแต่ละจุดที่คุณกำลังสร้างขึ้นมา ว่าในที่สุดมันก็จะหาทางเชื่อมต่อกันได้เองในอนาคตอย่างแน่นอน คุณต้องมีศรัทธาที่แน่วแน่ในสิ่งที่คุณทำ เพราะความเชื่อที่เรามีจะต่อจุดแต่ละจุดเข้าหากันได้ในที่สุด ความเชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง และมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตผมด้วย"
- งานสำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เดือนมิถุนายน 2005
ความคิดเกี่ยวกับความตาย
"ไม่มีใครอยากจะตายหรอกนะ ไม่มีใครอยากจากโลกนี้ไป แม้กระทั่งคนที่อยากขึ้นสวรรค์เองก็คงไม่อยากขึ้นสวรรค์ด้วยวิธีนี้เหมือน กัน แต่ไม่ว่าอย่างไร 'ความตาย' ก็คือจุดหมายปลายทางที่เราทุกคนมีร่วมกัน ไม่มีใครหลีกหนีมันได้พ้น ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นล่ะ เพราะความตายเปรียบเสมือนกับสิ่งประดิษฐ์หนึ่งสำหรับชีวิต เอาไว้ใช้เพื่อดึงพวกคนรุ่นเก่า ๆ ออกไปและเปิดทางให้รุ่นใหม่ได้เข้ามาแทนที่ และตอนนี้คนรุ่นใหม่เหล่านั้นก็คือพวกคุณ แต่ก็อีกไม่นานนักหรอกนะ ในที่สุดคุณก็จะแก่ลงและก็จะหายไปจากโลกนี้เช่นเดียวกัน ขอโทษทีนะที่ผมพูดตรงไปหน่อย แต่ยังไงซะสิ่งนี้ก็คือความจริงอยู่ดีนั่นล่ะ"
- พิธีสำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เดือนมิถุนายน 2005
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากวาทะทั้งหลายของเขา คำพูดซึ่งแฝงให้เห็นตัวตนที่เป็นนักคิด นักลงมือทำ อย่างไม่มีหยุดหย่อนของ สตีฟ จ็อบส์ เราหวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจและแรงขับดันให้กับคุณ ๆ ทั้งหลาย ได้ลองคิด ลองฝัน และกล้าที่จะลงมือทำ อย่างที่ชายผู้นี้ได้ทำและได้พลิกโฉมโลกไอทีนี้มาแล้วทั้งใบ.... "สตีฟ จ็อบส์" ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น