06 ธันวาคม 2554

Serendipity 2001





                           
เรื่องราวมีอยู่ว่า ชาย หญิง คู่หนึ่งได้มาพบกันโดยบังเอิญ ที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมันเป็นความบังเอิญมากที่ ทั้งสองต่างก็ต้องการ ถุงมือสีดำ ที่เหลือคู่เดียวในร้าน เพื่อที่จะซื้อไปให้คู่รักของตน แต่ในเมื่อตกลงกันได้ ความเป็นสุภาพบุรุษของฝ่ายชาย ก็เลยยกให้ฝ่ายหญิงไป ฝ่ายหญิงจึงเลี้ยงแทนคำขอบคุณที่ร้านแห่งหนึ่งมีชื่อว่า  Serendipity  และแล้วเหตุการณ์สำคัญ*****************



เมื่อทานไอติมกันเรียบร้อย ฝ่ายชายจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งฝ่ายหญิง จะให้ง่ายๆ ก็กะไรอยู่ใช่ไหมค่ะ เพราะตน ก็มีคู่รักอยู่แล้ว ฝ่ายชายจึงเขียนเบอร์โทรศัพท์ ของเขา ลงบนเงิน 5 ดอลล่าร์ให้กับฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงรีบรับและนะไปซื้อ ขนมมากิน และบอกฝ่ายชายว่า ถ้าเราเป็น คู่กัน ธนบัตรใบนี้จะกลับมาหาฉัน และฉันจะโทรกลับไปหาคุณ 
ส่วนฝ่ายหญิงเองก็ได้ให้ข้อตกลงไว้ว่า ฉันจะเขียน ชื่อ และ เบอร์โทร ไว้ในหนังสือเล่มนี้ แล้วจะนำมันไปขายที่ร้านรับซื้อหนังสือเก่า ถ้าเราเป็น คู่กัน หนังสือนี้จะกลับไปคุณ  ***
                                          

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ฝ่ายชายจะละความพยายามง่ายๆ **** วิ่งตามฝ่ายหญิงกลับไป  ฝ่ายหญิงรำคาญนัก จึงได้จูงมือ ฝ่ายชายเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง พร้อมกดลิฟต์ ด้านที่ตรงกันข้าม สองตัว แล้วบอกว่า
ถ้าคุณกับฉันเป็นเนื้อคู่กันจริง เราต่างคนจะต้องกดลิฟต์ชั้นเดียวกัน เมื่อลิฟต์เปิดออกมา แล้วเราเห็นกันแสดงว่าเราเป็น เนื้อคู่กันจริงๆๆ เมื่อ พูดจบ เธอก็วิ่ง เข้าลิฟต์ ฝั่งที่ตรงกันข้ามกับฝ่ายชาย ก่อนไป โยนถุงมือ สีดำให้ข้างหนึ่ง  ส่วนฝ่ายชายก็ รีบขึ้นลิฟต์อีกตัว แล้วกด ชั้น 23 ซึ่งตรงกับฝ่ายหญิงเลย..แต่ก็เกิดอุปสรรคกับฝ่ายชายนิดหน่อย เพราะลืฟต์ตัวนั้น ดันมีเด็ก เข้ามาด้วย และเขาได้กด ทุกชั้นทำให้วันนั้น เขาทั้งสองต่างก็ แคล้วคลาดกัน 

                        

.....หลังจากนั้นไป ฝ่ายชายก็ตามซื้อหนังสือเล่มดังกล่าวเกือบแทบทุกร้าน แต่ก็ไม่พบ.. สักร้าน.. ฝ่ายหญิงเองเมื่อเจอแบงค์ 5 ดอลล่าร์ก็อดไม่ได้ที่จะพลิกดู
แต่แล้ว ทฤษฎีนี้ก็ได้ผลจริงๆ ทั้งสองต่างรู้ว่าคนที่ตนรักนั้นไม่ใช่เสียแล้ว ต่างฝ่ายจึงได้ออกตามหากัน แล้วก็พบกันจนได้                        
ซึ้งไหม... ผู้แต่ง แต่งได้ยอดเยี่ยมมากๆๆค่ะ ส่วนนักแสดงเองก็ถ่ายทอดความรู้สึกรัก ผ่านโชคชะตาฟ้าลิขิตได้ดีไม่แพ้กัน 



The Distance - Serendipity Soundtrack

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น